ภาวะรกเกาะต่ำเป็นภาวะแทรกซ้อนที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อหญิงตั้งครรภ์เนื่องจาก การเกิดภาวะรกเกาะต่ำ หากคลอดเองโดยธรรมชาติ อาจทำให้เกิดการตกเลือดอย่างมาก เนื่องจากเกิดการลอกตัวของรกก่อนกำหนด หรือไม่สามารถคลอดเองได้เลยเนื่องจากรกปิดคลุมปากมดลุกทั้งหมด ต้องทำคลอดโดยวิธีการผ่าตัดเอาทารกออกทางหน้าท้องเท่านั้น หากไม่ทราบสาเหตุ อาจพบการอยู่ในระยะคลอดที่ยาวนาน เนื่องจากทารกไม่สามารถคลอดออกมาได้ อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของมารดาและทารกได้
ความหมายทางการแพทย์ของรกเกาะต่ำ
ภาวะรกเกาะต่ำ |
รกเกาะต่ำ หมายถึง การที่มีบางส่วนของรก หรือรกทั้งอันเกาะอยู่ที่ส่วนล่างของมดลูก(lower uterine segment) มักพบเมื่ออายุครรภ์ 20 สัปดาห์ขึ้นไป ส่วนมากมักพบในไตรมาสที่สาม โดยเฉพาะเมื่ออายุครรภ์ได้ประมาณ 8 เดือน
จำแนกเป็น 4 ชนิดคือ
อาการภาวะรกเกาะต่ำ |
- ขอบรกอยู่เหนือปากมดลูกด้านใน (low lying placenta หรือ placenta previa type I)หมายถึงรกที่ฝังตัวบริเวณ lower uterine segment ซึ่งขอบรกยังไม่ถึง Internal os ของปากมดลูก แต่อยู่ใกล้ชิดมาก เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า lateral placenta previa
- ขอบรกปิดถึงบริเวณปากมดลูกด้านใน (marginal placenta previa หรือ placenta previa type II)หมายถึง รกเกาะต่ำชนิดที่ขอบรกเกาะถึงขอบ Internal os
- รกปิดปากมดลูกด้านในเพียงบางส่วน (Partial placenta previa หรือ placentaprevia type III)หมายถึง รกเกาะต่ำชนิดที่ขอบรกคลุมปิด Internal os เพียงบางส่วน
- รกปิดปากมดลูกด้านในทั้งหมด (Total placenta previa หรือ placenta previa totalis หรือ placenta previa type IV)หมายถึง รกเกาะต่ำที่คลุมปิด Internal os ทั้งหมด
สาเหตุ และปัจจัยที่ทำให้เกิดรกเกาะต่ำ
สาเหตุภาวะรกเกาะต่ำ |
- อายุ พบมากในสตรีตั้งครรภ์อายุมากกว่า 35 ปี
- จำนวนครั้งของการคลอด(parity)พบว่าจำนวนครั้งยิ่งมาก ยิ่งมีโอกาส รกเกาะต่ำได้มาก
- การทำลายของส้นเลือดของเยื่อบุมดลูก เป็นผลมาจากการลีบเล็กของเซลล์เช่น มารดาที่เคยขูดมดลูก เคยผ่าตัดมดลูก สูบบุหรี่จัด
- มารดารที่เคยมีรกเกาะต่ำมาก่อน
- การตั้งครรภ์แฝด
- รกผิดปกติ
การวินิจฉัยการเกิดภาวะรกเกาะต่ำ
- จากการซักประวัติ พบอาการและอาการแสดงที่สำคัญคือ มีเลือดออกทางช่องคลอดโดยไม่มีอาการเจ็บครรภ์ หรืออาการปวด มักพบในไตรมาสที่ 3 อายุครรภ์ประมาณ 30 สัปดาห์ไปแล้ว เลือดที่ออกไม่มีอาการนำมาก่อน จำนวนเลือดที่ออกไม่มากนัก มักหยุดเองและมีลักษณะสีแดงสด
- การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound)เพื่อหาตำแหน่งการเกาะของรก มีความแม่นยำสูงมากเนื่องจาก คลื่นเสียงจะสะท้อนภาพความผิดปกติต่างๆที่อยู่ภายในช่องท้องออกมาได้
- การตรวจร่างกาย
- พบอาการซีด สัมพันธ์กับปริมาณเลือดที่ออก จากการที่มีการสูญเสียเลือดเป็นจำนวนมาก ร่างกายจึงตอบสนองโดยการหดตัวของหลอดเลือดส่วนปลาย เพื่อลดการสูญเสียเลือดจากบริเวณที่มีเลือดออก และเพื่อเพิ่มแรงดันเลือดให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอเมื่อหลอดเลือดมีการหดตัวทั่วร่างกาย สิ่งที่แสดงออกมาให้เห็นได้ คือ ผิวหนังจะซีด และเห็นได้ชัดบริเวณเยื่อบุอ่อน เช่น กระพุ้งแก้ม เยื่อบุตา เป็นต้น
- การตรวจทางหน้าท้องคลำพบมดลูกนุ่ม คลำพบทารกได้ชัดเจน อาจคลำพบว่าทารกในครรภ์อยู่ในท่าผิดปกติ ถ้าศีรษะทารกเป็นส่วนนำ จะพบว่าส่วนนำลอยอยู่ศีรษะยังไม่เข้าสู่อุ้งเชิงกราน เนื่องจากมีรกขวางอยู่ที่บริเวณใกล้ปากมดลูกทำให้ทารกไม่สามารถเคลื่อนต่ำลงมาได้
- การตรวจทางช่องคลอดควรทำเมื่ออายุครรภ์มากกว่า 34 สัปดาห์(เนื่องจากการตรวจทางช่องคลอดเป็นส่วนกระตุ้นที่ทำให้เกิดการเจ็บครรภ์คลอดได้จึงเสี่ยงต่อภาวะ การคลอดก่อนกำหนด) เพราะเมื่อทารกคลอดแล้วจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ แต่ต้องทำคลอดในห้องผ่าตัดเนื่องจากคลอดธรรมชาติอาจทำให้เกิดการตกเลือดจากการลอกตัวของรกก่อนกำหนดหรืออาจไม่สามารถคลอดได้เลยเนื่องจากรกปิดคลุมปากมดลูกอยู่
ผลต่อมารดาแลทารกเมื่อเกิดภาวะรกเกาะต่ำ
ผลต่อมารดา ได้แก่ การตกเลือดระหว่างการตั้งครรภ์ ส่วนใหญ่มักพบว่าสามารถประคับประคองการตั้งครรภ์ต่อไปได้จนทารกปลอดภัย
ผลต่อทารก ได้แก่ การคลอดก่อนกำหนด ทารกขาดออกซิเจน ทารกพิการแต่กำเนิด และทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์
การรักษาภาวะรกเกาะต่ำ
การรักษามีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อ ป้องกันให้หญิงตั้งครรภ์ไม่ได้รบอันตรายจากการตกเลือด และไม่ให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด
การรักษาประกอบด้วย
- การรักษาตามอาการ(expectant treatment หรือ conservative treatment)เป็นการรักษาดำเนินไปได้จนอายุครรภ์ครบ 37 สัปดาห์
- การรักษาแบบรีบด่วน (Active treatment)เป็นการรักษาที่ทำให้การตั้งครรภ์สิ้นสุดลง
ใช้ในกรณีต่อไปนี้ คือ อายุครรภ์เกิน 37 สัปดาห์ไปแล้ว ทารกน้ำหนักมากกว่า 2,500 กรัม เลือดออกมาก ทารกตายในครรภ์ เป็น placenta previa totalis และมีการเจ็บครรภ์ถึงแม้อายุครรภ์จะน้อยกว่า37 สัปดาห์