ในปัจจุบันอัตราการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเด็กอายุเฉลี่ยต่ำลงทุกวันรวมถึงมีข่าวการมีเพศสัมพันธ์แบบสลับคู่ก็มีให้เห็นตามข่าวมากขึ้น เราจึงจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ให้มากขึ้นเพราะอาจจะได้เจอกับตัวเองหรือเมื่อบุคคลรอบข้างที่มีอาการเหล่านี้จะได้แนะนำให้รักษาตัวได้ถูก herb-health.com จะพาไปทำความรู้จักกับโรคหนองในอีกหนึ่งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดมากขึ้น
โรคหนองใน คืออะไร
gonorrhea |
โรคหนองในคือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ส่วนใหญ่จะเกิดในวัยรุ่นที่นิยมมีเพศสัมพันธุ์โดยไม่ป้องกัน โรคหนองในยังสามารถเกิดกับเด็กทารกได้ด้วยการติดต่อจากแม่ไปสู่ลูกระหว่างที่ตั้งครรภ์จนคลอดบุตร โดยปกติแล้วโรคหนองในจะเกิดจากเชื้อไวรัสหลายชนิดซึ่งปัจจุบันแบ่งโรคหนองในออกเป็น 2 ชนิดดังนี้
1.โรคหนองในแท้ Gonococcal Urethritis
2.โรคหนองในเทียม Non gonococcal urethritis
ซึ่งทั้ง 2 มีอาการและสาเหตุการที่ติดต่อที่คล้ายกันในผู้ป่วยบางรายอาจจะไม่มีอาการก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักโรคหนองในแท้กันก่อน
สาเหตุโรคหนองในแท้ หรือ โรคหนองใน
แบคทีเรีย Gonorrhoea |
อาการของโรคหนองในแท้
อาการของโรคหนองใน |
โรคหนองในเทียม
เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ไม่ใช่สายพัน Gonococal Urethritis มีหลายประเภทดังนี้
-Chlamydia trachomatis
-Ureaplasma urealyticum 10-40%
-Trichomonas vaginalis (rare)
-Herpes simplex virus (rare)
-Adenovirus
-Haemophilus vaginalis
-Mycoplasm genitalium
ก็หมายความว่าหากเราติดเชื้อที่ไม่ใช่ Gonococal Urethritis นั่นก็หมายความว่าเราเป็นโรคหนองในเทียม
อาการของผู้เป็นโรคหนองในเทียม
หลังจากได้รับเชื้อประมาณ 1-3 สัปาดาห์ สำหรับเพศชายจะมีอาการน้ำหนองไหลออกจากอวัยวะเพศ ปวดแสบร้อนขณะปัสาวะ มีอกาารันหรือปวดบริเวณอวัยะเพศ สำหรับเพศหญิงจะมีอาการตกขาวมาก ปัสสาวะขัด หากไม่รักษาจะรามไปยังท่อรังไข่ทำให้เกิดช่องเชิงกรานอักเสบ
ตรวจหาเชื้อโรคหนองในได้อย่างไร
หากผู้ไม่มแสดงอาการเราสามารถตรวจหาเชื้อหนองในได้ด้วยการตรวจปัสสาวะ PCR นำหนองมาย้อยหาเชื้อซึ่งการตรวจกับแพทย์เรายังสามารถตรวจหาเชื้อย่างอื่นได้ด้วย นั้นก็หมายความว่าหากเราตรวจสารคัดหลั่งจากช่องคลอดไม่ว่าจะเป็นหนอง ตกขาว ฯลฯ เราก็สามารถตรวจหาเชื้อหนองในได้
โรคหนองในผู้ชาย
โรคหนองในผู้ชาย |
โรคหนองในผู้หญิง
โรคหนองในผู้หญิง |
-ปัสสาวะแสบขัด
-มีอกาารอักเสบที่ท่อปัสสาวะ ปากมดลูกรวมถึงช่องทวารหนัก
-หากเชื้อโรครุกลามเข้าโพรงมดลูกหรือปีกมดลูกอาจจะทำให้อุ้มเชิงกรานอักเสบเป็นสามเหตุให้ตั้งครรภ์นอกมดลูกได้
-ผู้หญิงที่เป็นหนองในระหว่างตั้งครรถ์จะมีความเสี่ยงสูงมากที่จะถ่ายทอดเชื้อไปยังบุตร ผู้หญิงที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหนองในควรตรวจหาเชื้อรเมื่อมาฝากครรภ์และตรวจอีกครั้งเมื่อายุครรภ์ครบ 28 สัปดาห์
-ผู้หญิงจะมีอาการช้ากว่าผู้ชายประมาณ 13 สัปดาห์
โรคหนองในเด็ก
โรคหนองในเด็กทารกติดเชื้อจากแม่ |
โรคหนองในปาก
โรคหนองในทางปาก |
วิธีรักษาโรคหนองใน
วิธีรักษาโรคหนองใน |
การรักษาโรคหนองในด้วยาปฏิชีวะจะมีผลต่อประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดซึ่งในระหว่างนี้หากใครไม่ต้องการมีบุตรก็ควรจะป้องกันด้วยวิธีอื่นเพิ่มเติม เช่น การใช้ถุงยางอนามัย แต่ทางที่ดีที่สุดก็ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์เลยระหว่างที่อยู่ในการรักษาโรคหนองใน
ยารักษาโรคหนองใน
ยารักษาหนองใน |
– ยาในกลุ่ม Cephalosporin เช่น Cefixime รับประทานครั้งเดียว 400 มิลลิกรัม หรือ Ceftriaxone 250 มิลลิกรัมฉีดครั้งเดียว
-ยาในกลุ่ม Quinolone เช่น Ciprofloxacin รับประทานครั้งเดียว 500 มิลลิกรัม หรือ Ofloxacin 400 มิลลิกรัมที่รับประทานครั้งเดียวเช่นกัน
-ผู้ที่เป็นโรคหนองในแท้มักจะเป็นโรคหนองในเทียมด้วยโดยการใช้ยา Doxycycline รับประทานครั้งละ 1 เม็ด เช้า-เย็น เป็นเวลา 7 วัน
การใช้ยามีปัจจัยหลายอย่างทั้งการดื้ยาและสตรีมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
ใช้เวลานานเท่าไหร่ในการรักษาโรคหนองใน
การรักษาโรคหนองในจะใช้เวลาค่อนข้างเร็วเพียง 2-3 สัปดาห์สำหรับผู้ป่วยที่ไม่ใช่เด็กทารก ไม่ว่าจะเป็นอาการตกขาวมากกว่าปกติ ตกขาวมีกลิ่นมาแรง หรือปัสสาวะแสบขัด ส่วนอาการเลือดออกกะปิบกะปรอยระหว่างเป็นประจำเดือนจะหายดีในรอบเดือนหน้า สำหรับผู้ชายอาการปวดลูกอัณฑะจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์กว่าจะดีขึ้น แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้นก็ควรจะไปพบแพทย์เพิ่มเติมเพื่อรักษาอย่างละเอียด
โรคหนองในหายเองได้หรือไม่
โรคหนองในหากปล่อยไว้ไม่มีอาการก็ไม่ได้หมายความว่าจะหายไปเองเพียงแต่เชื้ออาจจะหลบไม่แสดงอาการแต่อาจจะแสดงอาการอย่างแทรกซ้อนแทน เช่น มีอาการปวดอัณฑะบ้างเป็นเวลานานๆครั้ง แต่บางคนก็ไม่มีอาการใดเลยซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าหายขาดจากโรคหนองใน จึงควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อหนองในให้มั่นใจเสียก่อนว่าหายขาดหรือไม่ โรคหนองในสามารถรักษาให้หายขาดได้