วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2559

ผิวแห้ง อันตรายที่หลายคนมองข้าม


ผิวแห้งเป็นปัญหาที่คนไทยไม่ค่อยใส่ใจนัก เพราะสภาพอากาศในประเทศไทยนั้นร้อนอบอ้าวและความชื้นสูงเกือบตลอดทั้งปี คนไทยจึงไม่ได้ประสบปัญหาผิวแห้งหนักเท่าประเทศทางยุโรปที่อากาศหนาวจัดในหน้าหนาว มีเพียงคนที่มีผิวแห้งตั้งแต่กำเนิด คือได้มาจากพันธุกรรม บางคนไม่รู้หรือไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่าตนเองก็เป็นคนผิวแห้ง และละเลยการดูแลผิวอย่างถูกต้อง แต่ความจริงแล้วปัญหาผิวแห้งนั้นอันตรายและก่อผลเสียได้มากมาย ใครอยากรู้ว่าตัวเองเป็นคนผิวแห้งบ้างหรือไม่ ก็ลองติดตามบทความนี้ดูค่ะ

ผิวแห้ง



ผิวแห้ง เป็นอย่างไร?

ผิวแห้ง คือลักษณะของผิวขาดความชุ่มชื้นมากเกินกว่าปกติหรือผิวขาดน้ำ ข้อดีคือผิวจะรูขุมคนเล็ก ไม่มันวาว ไม่ค่อยมีปัญหาสิวมาก แต่ข้อเสียใหญ่หลวงคือ ผิวจะหยาบ กร้าน แห้ง ถ้าแห้งมากจนลอก เป็นขุย แตกระแหง จนเกิดการอักเสบ และโรคผิวหนังต่างๆตามมาได้ แต่บางคนไม่ได้มีอาการเหล่านี้ตลอดเวลา หรือมีอาการชัดเจน ทำให้ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนผิวแห้งหรือไม่ ขอให้ติดตามย่อหน้าถัดไปแล้วจะรู้ค่ะ


คุณผิวแห้งหรือไม่?

บางคนอาจมีอาการผิวแห้งแค่บางขณะ เช่น เวลาอยู่ที่ๆหนาวจัด เวลาอยู่บนเครื่องบิน หรือ ช่วงที่ดื่มน้ำไม่เพียงพอ แต่ก็มีข้อสังเกตอยู่บางอย่างเพื่อให้รู้ว่าคุณผิวแห้งหรือไม่ดังนี้

ขณะอาบน้ำ ล้างหน้าด้วยสบู่อ่อนๆแล้วล้างด้วยน้ำอุ่นปานกลาง เมื่อเสร็จแล้วห้ามทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใดๆ รอจนครบ 3 ชั่วโมง ลองนำกระดาษซับหน้ามันมาซับหน้า โดยซับหรือแปะกระดาษไว้แต่ละส่วนของใบหน้าแยกกัน เมื่อนำกระดาษซับหน้ามันมาดู ถ้าบนกระดาษไม่มีน้ำมันอยู่เลย แสดงว่าคุณเป็นคนผิวแห้ง ถ้ามีน้ำมันติดในส่วนที่เช็ดบริเวณ T-zone คือหน้าผาก จมูก และคาง แต่แก้มแห้งสนิท แสดงว่าคุณเป็นคนผิวผสม และถ้ามีน้ำมันอยู่ทั่วไปทุกส่วนอย่างเห็นได้ชัดแสดงว่าคุณผิวมัน แต่ถ้าคุณมีน้ำมันเล็กน้อยบางส่วนอาจจะแสดงว่าคุณมีผิวผสมก็ได้ค่ะ


สาเหตุของผิวแห้ง

หลังจากรู้จักลักษณะของผิวแห้งและรู้ว่าตัวเองมีผิวแห้งหรือไม่กันแล้ว เรามารู้ถึงสาเหตุที่ทำให้ผิวแห้งกันเถอะ
  1. พันธุกรรม ที่ต้องกล่าวถึงเป็นอันดับแรกเพราะเป็นสิ่งที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด และมีผลตลอดชีวิต แม้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่เราก็ควรรู้จักผิวของตัวเอง และสามารถดูแลอย่างถูกวิธี
  2. สภาพอากาศ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวแห้ง ถ้าอยู่ในสภาะวะอากาศที่มีความชื้นน้อยและอุณหภูมิต่ำมากๆ รวมทั้งอยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลา มีผลให้ผิวแห้งได้ จึงควรได้รับการบำรุงอย่างสม่ำเสมอ
  3. การอาบน้ำอุ่นจัด การอาบน้ำอุ่นจัดหรือร้อนเป็นเวลานานๆนั้นทำให้ผิวแห้งขึ้นได้มาก เพราะน้ำมันในผิวถูกชะล้างไป เพราะฉะนั้นไม่ควรอาบน้ำอุ่นจัดมากเกินไป หรืออาบน้ำอุ่นเป็นเวลานานๆ และเมื่ออาบน้ำเสร็จควรทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวป้องกันผิวแห้ง
  4. การใช้ผลิตภัณฑ์ชำระล้างที่ไม่เหมาะสม สบู่ที่เราใช้อาบน้ำทั้งแบบสบู่ก้อนและสบู่เหลวส่วนมากมีสภาพเป็นด่าง โดยเฉพาะสบู่ก้อนส่วนมากมีความเป็นด่างมากและมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวน้อยกว่า คนที่มีผิวแห้งควรใช้สบู่อ่อนที่มีค่า pH ใกล้เคียงกับผิว และมีสารที่ช่วยบำรุงผิวประกอบอยู่ในส่วนผสม อาจใช้เวชสำอางหรือสบู่ที่วางขายในร้านขายยาเพื่อความมั่นใจ รวมทั้งไม่ควรล้างหน้าหรืออาบน้ำบ่อยครั้งเกินไป
  5. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางที่ไม่เหมาะสมผลิตภัณฑ์บางชนิดมีส่วนผสมของสารยับยั้งการสร้างน้ำมันในผิวหนัง จึงทำให้ผิวแห้งลงได้ การใช้ครีมบำรุง หรือเครื่องสำอางที่ผสมด้วยสารบางชนิดเช่น สังกะสี (Zinc) แอลกอฮอล์ และสารสกัดบางชนิด จะทำให้ผิวแห้ง คนที่มีผิวแห้งจึงควรตรวจสอบผลิตภัณฑ์ให้ดีก่อนที่จะซื้อหรือใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ
  6. อายุที่เพิ่มขึ้น คนเราเมื่ออายุเพิ่มขึ้น เซลล์ผิวหนังจะมีการเสื่อมสภาพลงไปเรื่อยๆ ฮอร์โมนก็จะเปลี่ยนไป ทำให้การสร้างน้ำมันมาหล่อเลี้ยงผิวลดลงเรื่อยๆ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยมากขึ้นอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ผู้สูงอายุจึงควรให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ
  7. การรับประทานอาหารและดื่มเครื่องดื่ม สารอาหารมีผลต่อการผลิตน้ำมันหล่อเลี้ยงผิว แอลกอฮอล์ บุหรี่ และการใช้ยาบางชนิด เช่นยารักษาสิว ก็สามารถทำให้ทำให้ผิวนั้นแห้งขึ้นได้เช่นกัน
  8. โรคบางชนิด ทำให้ผิวแห้งได้ เช่น โรคผิวหนัง ผื่นแพ้ โรคเบาหวาน โรคขาดสารอาหาร และโรคต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย เป็นต้น
วิธีป้องกันแล้วดูแลผิวแห้ง
  • พยายามเลี่ยงการอยู่ในที่เย็น หรือห้องแอร์นานๆ ถ้าจำเป็นต้องอยู่ก็ควรทางผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื่นอยู่เสมอ
  • ดื่มน้ำมากๆ ให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
  • ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบของสารที่ให้ความชุ่มชื้น รวมทั้งเก็บกักและรักษาสมดุลของน้ำในผิวหนัง
  • รับประทานอาการให้ครบ 5 หมู่ และควรได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามสุขลักษณะ เช่นวิตามินต่างๆ โดยเฉพาะไขมันชนิดดีที่ช่วยในการบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น เช่น ปลาชนิดต่างๆ มะม่วง ส้ม ดาร์กช็อคโกแลต
  • ไม่ควรอาบน้ำอุ่นจัดเป็นเวลานาน และไม่ควรอาบน้ำล้างหน้าบ่อยเกินไป ควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้งเท่านั้น
  • ไม่ดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่
  • การรับประทานอาหารเสริมช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เช่นน้ำมันอีหนิ่งพรีมโรส น้ำมันปลา และวิตามินต่างๆ